อยากมีใครให้คิดถึง – ดวงจันทร์ สุวรรณี

 

..นั่งมองข้างฝา

มีรูปดาราหลายใบ

สะสมไว้เป็นเพื่อนใจ

เอาไว้ทักทายหยอกเย้า

คุยกับดอกไม้

ที่ใต้ชายคาห้องเช่า

เพื่อนแท้มีแค่ความหงา

ที่เฝ้าไม่ยอมจากลา

 

..ค่ำคืนเดือนหงาย

อยากฝันถึงใครสักคน

เดือนคว่ำที่ฟ้าหมองหม่น

ยิ่งอยากมีคนมาหา

คุยแทนดอกไม้

ทักทายแทนรูปบนฝา

และคอยเป็นที่ปรึกษา

ปัญหาหัวใจให้..ฉัน

 

..อยากมีใครให้คิดถึง

อยากเห็นแววตาซึ้ง ๆ

มานั่งมองจ้องตากัน

มาหอบความเหงา

เอาไปจากใจของฉัน

แล้วเติมให้เต็มทุกวัน

ด้วยความรักอันอบอุ่น

 

..ที่ตรงข้างฝา

มีรูปดาราอีกใบ

เมื่อเย็นเพิ่งซื้อมาใหม่

เพราะบุญยังไม่เกื้อหนุน

ยังไม่มีใคร

พาไปเปลี่ยนนามสกุล

อาศัยรูปภาพเป็นทุน

พอให้อบอุ่นหัว..ใจ

 

 

..อยากมีใครให้คิดถึง

อยากเห็นแววตาซึ้ง ๆ

มานั่งมองจ้องตากัน

มาหอบความเหงา

เอาไปจากใจของฉัน

แล้วเติมให้เต็มทุกวัน

ด้วยความรักอันอบอุ่น

..ที่ตรงข้างฝา

มีรูปดาราอีกใบ

เมื่อเย็นเพิ่งซื้อมาใหม่

เพราะบุญยังไม่เกื้อหนุน

ยังไม่มีใคร

พาไปเปลี่ยนนามสกุล

อาศัยรูปภาพเป็นทุน

พอให้อบอุ่นหัว..ใจ

Leave a comment »

คอนเสิร์ตพี่นาง ศิริพร อำไพพงษ์ ที่วัดบ้านด่านทองหลาง อ.โนนสูง โคราช

คนเสิร์ตศิริพร ำไพพงษ์คนเสิร์ตศิริพร ำไพพงษ์คนเสิร์ตศิริพร ำไพพงษ์

Comments (1) »

หน้าจอรอสาย – ต่าย อรทัย

 

 

..โหลดเพลงรอสาย

ที่มีความหมายว่ารอ

เก็บซ่อนในจอ

เป็นเพลงเฉพาะเบอร์อ้าย

พร้อมความรู้สึกบางอย่าง

ที่มีต่อกันยามไกล

อ้ายกดเบอร์นี้ยามใด

มีเพลงแทนใจให้ฟัง

 

..อ้ายคือแรงใจ

ให้คอยคึดฮอดเรื่อยมา

อยู่ห่างไกลตา

ก็เหมือนได้ยืนเคียงข้าง

เรื่องใดสะกิดใจหน่อย

ก็คอยอยากเล่าสู่ฟัง

ยามอ้ายโทรมาทุกครั้ง

เหมือนใจอยากฟ้องคำว่า

 

..กำลังคึดฮอดพอดี

ขอบคุณนะที่โทรมา

ถือสายรอก่อนเด้อจ้า

รับช้าก็อย่าน้อยใจ

ก็กำลังคึดฮอดพอดี

ขอบคุณนะที่โทรมา

ถือสายรอก่อนเด้อจ้า

รับช้าก็อย่าน้อยใจ

 

..โหลดเพลงรอสาย

ที่มีความหมายว่าคอย

มือถือใจน้อย

หากวันใดบ่เห็นเบอร์อ้าย

แอบเหงาแต่เว้าบ่เก่ง

จึงฝากเพลงช่วยบอกแทนใจ

ทุกคำขอเพลงรอสาย

ความหมายก็คือห่วงหา

 

 

..กำลังคึดฮอดพอดี

ขอบคุณนะที่โทรมา

ถือสายรอก่อนเด้อจ้า

รับช้าก็อย่าน้อยใจ

ก็กำลังคึดฮอดพอดี

ขอบคุณนะที่โทรมา

ถือสายรอก่อนเด้อจ้า

รับช้าก็อย่าน้อยใจ

 

..โหลดเพลงรอสาย

ที่มีความหมายว่าคอย

มือถือใจน้อย

หากวันใดบ่เห็นเบอร์อ้าย

แอบเหงาแต่เว้าบ่เก่ง

จึงฝากเพลงช่วยบอกแทนใจ

ทุกคำขอเพลงรอสาย

ความหมายก็คือห่วงหา

Leave a comment »

วันที่บ่มีอ้าย – ต่าย อรทัย

 

 

..ฟ้าเอ๋ย มีไว้เฮ็ดหยัง

ถ้าอ้ายบ่นั่ง

เบิ่งดาวนำกัน

บ่มีกะได้

ปากซอยตรงนั้น

หากอ้ายลืมวัน

เคยเทียวร่วมทาง

 

..มีไว้เฮ็ดหยังถนน

หากอ้ายบ่สน

มาเดินเคียงข้าง

เมื่ออ้ายเลือกคน

ผู้มาทีหลัง

โลกนี้ทุกอย่าง

เหมือนสิ้นความหมาย..

 

 

..หากบ่มีอ้าย..คือเก่า

ใจเหงาก็เริ่มไหวหวั่น

ชีวิตขาดคนร่วมฝัน

สิ้นแรงใจ..

..ฮักอ้ายเพียงนี้

ยังทิ้งลง

น้องคงฮักใครอีกบ่ได้

ตราบที่..ทุกลมหายใจ

คึดฮอดแต่อ้ายนั้น..

 

..โลกคงเหงา

นับจากวันนี้

ในเมื่อบ่มีอ้ายเคียงข้างกัน

คงเดียวดาย

หมดไฟสิ้นฝัน

เพราะว่าใจนั้น

ฮักใครบ่ได้อีกเลย..

 

..หากบ่มีอ้าย..คือเก่า

ใจเหงาก็เริ่มไหวหวั่น

ชีวิตขาดคนร่วมฝัน

สิ้นแรงใจ..

 

..ฮักอ้ายเพียงนี้

ยังทิ้งลง

น้องคงฮักใครอีกบ่ได้

ตราบที่..ทุกลมหายใจ

คึดฮอดแต่อ้ายนั้น..

ตราบที่..ทุกลมหายใจ

คึดฮอดแต่อ้ายนั้น..

Leave a comment »

รางวัล”มาลัยทอง ครั้งที่ 7″ 28 ม.ค.2550

จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 7 สำหรับรางวัลของวงการเพลงลูกทุ่ง “มาลัยทอง” เพื่อสร้างสรรค์และส่งเสริมให้เกิดบทเพลงคุณภาพ และให้กำลังใจบุคลากรในวงการเพลงลูกทุ่ง จัดโดยสมาคมลูกทุ่งเอฟเอ็ม ซึ่งงานประกาศรางวัลประจำปี 2549 จัดขึ้นที่เอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ

บรรยากาศในงานมีนักร้องและคนในวงการเพลงลูกทุ่ง ชื่อดังร่วมงานค่อนข้างบางตา ไม่คึกคักเหมือนเช่นปีที่ผ่านมา อาทิ “ก๊อต” จักรพรรณ์ อาบครบุรี ดาวยุรี มยุรี ตั๊กแตน ชลดา จอมขวัญ กัลยา เป็นต้น โดยนักร้องลูกทุ่งชื่อดังต่างแต่งกายด้วยชุดราตรีหรูหราสีสันสดใสมาประชัน กันในงาน

ส่วน ผู้ที่ได้รับรางวัลทั้งสิ้น 16 ประเภท มีดังต่อไปนี้ รางวัลเพลงยอดเยี่ยมได้แก่ “เขียนฝันไว้ข้างฝา” ขับร้องโดย รัชนก ศรีโลพันธุ์ คำร้องและทำนอง โดยนายสลา คุณวุฒิ

รางวัลนักร้องชายยอดเยี่ยม ตกเป็นของ จักรพรรณ์ อาบครบุรี ส่วนรางวัลนักร้องหญิงยอดเยี่ยม ได้แก่ จอมขวัญ กัลยา

ขณะ ที่นายเจนภพ จบกระบวนวรรณ คว้าไป 2 รางวัล ได้แก่ รางวัลคำร้องยอดเยี่ยม และรางวัลเพลงสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมจากเพลง “พระจันทร์ร้องไห้”

รางวัลดาวรุ่งชายยอดเยี่ยม ได้แก่ กช นันทกร และรางวัลดาวรุ่งหญิงยอดเยี่ยมเป็นของ รัชนก ศรีโลพันธุ์

ส่วน นายลพ บุรีรัตน์ ครูเพลงชื่อดังรุ่นใหญ่ได้รางวัลทำนองยอดเยี่ยมในเพลง “ข้าวคำสุดท้าย” รางวัลเรียบเรียงเสียงประสานยอดเยี่ยมได้แก่ เพลง “สาวแดนเซอร์” โดยนายนฤพล พานทอง และรางวัลผสมเสียงยอดเยี่ยมตกเป็นของ นายนรชัย สัตตเวช จากเพลง “เขียนไว้ข้างฝา”

รางวัลเพลงเก่าทำใหม่ยอดเยี่ยมชาย  ได้แก่ “เหนือคำสาบาน” คำร้องโดย มนต์สิทธิ์ คำสร้อย และรางวัลเพลงเก่าทำใหม่ยอดเยี่ยมหญิง ได้แก่ เพลง “ใครคนหนึ่ง” คำร้องโดย ช่อเพชร พวงทอง ส่วนรางวัลเพลงลูกทุ่งพื้นบ้านยอดเยี่ยม ได้แก่ เพลง “สยามเมืองยิ้ม” ขับร้องโดย สมชาย ใหญ่

ส่วน ของ ต่าย อรทัย นักร้องสาวชื่อดังค่ายแกรมมี่ คว้ารางวัลนักร้องหญิงยอดนิยมไปครองจากเพลง “หน้าจอรอสาย” ขณะที่นักร้องชายยอดนิยมได้แก่ สมพงษ์ จิตรเที่ยง หรือ “หลวงไก่” จากเพลง “ฝากเพลงหอมแก้ม” และรางวัลเพลงลูกทุ่งยอดนิยมเป็น พี สะเดิด ที่คว้าไปครองจากเพลง “สาวกระโปรงเหี่ยน”

“ก๊อต” จักรพรรณ์ กล่าวว่า การได้รับรางวัลครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งย่อมเป็นสิ่งรับประกันถึงความตั้งใจในการทำงานที่ผ่านมา และเป็นกำลังใจให้ทำงานเพลงต่อไป โดยจะมีงานชุดใหม่ให้ฟังปลายปีนี้

“การทำงานของผมทุกครั้งจะใช้เวลามากกว่าคนอื่น เพลงที่ออกมาแต่ละเพลงผมตั้งใจให้โดนใจคนฟัง ทุกครั้งที่ผมทำงานจะตั้งใจมาก ส่วนรางวัลที่ได้ในวันนี้ก็ช่วยรับประกันความตั้งใจในการทำงานตัวผม และทีมงาน ซึ่งจะพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นไปอีก โดยงานชุดใหม่น่าจะเสร็จให้ฟังกันปลายปีนี้ ผมขอบคุณกรรมการและแฟนเพลงที่มีส่วนสนับสนุนมาตลอด” นักร้องหน้าหยก กล่าว

ด้าน จอมขวัญ กัลยา เจ้าของรางวัลนักร้องหญิงยอดเยี่ยม กล่าวว่า ขอยกความสำเร็จส่วนหนึ่งให้นายลพ บุรีรัตน์ ผู้แต่งเพลงนี้

“ต้อง กราบขอบคุณครูลพที่มอบเพลงดีๆ ให้จอมขวัญได้ร้องครั้งนี้ เป็นเพลงที่ใช้ภาษาได้อย่างสวยมาก และเป็นเพลงที่ร้องยากเพลงหนึ่ง แต่ครูลพก็เคี่ยวเข็นจนเพลงออกมาเป็นที่ยอมรับ สำหรับจอมขวัญพยายามถ่ายทอดอารมณ์ในการร้องให้ออกมาตรงกับเนื้อเพลงให้มาก ที่สุด” เจ้าของรางวัลนักร้องหญิงยอดเยี่ยม กล่าว

หมายเหตุ ดูรูปประกอบในงานเต็ม ๆ ได้ที่ http://www.oknation.net/blog/mhanation/2007/01/28/entry-2

Leave a comment »